วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

รถ1953 BMW R67/2 withSteib S350

รถ1953 BMW R67/2 withSteib S350รถ1953 BMW R67/2 withSteib S350
หน้ากระบอก 6 แรง กับ 'ไซด์บอลลูน'

แบรนด์ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์อย่าง BMW นั้นถูกจัดเรทติ้งไว้ในอันดับต้นๆ สำหรับ "คอโบราณ" ที่คลั่งไคล้ "มนตร์ดำนาซี" รถบาวาเรียนค่ายที่เสน่ห์แรงเหลือเกิน...R67 รถ 2 สูบหน้ากระบอกไม่กี่คันที่เคยมีโอกาสได้เห็นตัวเป็นๆ ยังคงตรึงใจ เส้นสายที่สวยงาม บนโครงสร้างเฟรมหลังสไลด์นั้น ถูกถ่ายทอดลงตัวรับกันตลอดทั้งคัน แถมการปรากฏตัวดังกล่าวยังคงหอบหิ้วซี้เก่า เป็น "พ่วงข้าง" สัญชาติเดียวกันที่เออออที่พร้อม...ร่วมหอ...!

"ตั้ม ลีดูฯ" สถาปนิกหนุ่มที่พิสมัยรถแบรนด์นี้จนต้องกัดฟันถอยมาเก็บไว้ในคอลเลกชั่นเพิ่มเติม มันเป็นจังหวะจะโคนที่ลงตัวกว่าใครเพื่อน หลัง "ต้นเรื่อง" คู่นี้ต่างตกเป็นเป้าสายตาจาก "เสี่ยกระเป๋าหนัก" ที่พร้อมเกทับด้วยธนบัตรเป็นมัดๆ...และ...หากเป็นเช่นนั้น "เรา" อาจไม่มีโอกาสได้เห็นรูปธรรมของรถ 6 แรง เวอร์ชั่นนี้ผ่านเข้ามาในความทรงจำ เราภาวนาหนุนหลัง...ก่อน...สมหวังในวันนัด หลังให้เวลาเจ้าของรายใหม่ได้เก็บเนี๊ยบอยู่เกือบ...อาทิตย์...!

รถ 2 สูบนอนยันเครื่องโอเวอร์เฮดวาล์วของ BMW รุ่น หน้ากระบอก หลังสไลด์ นั้นเปิดตัวให้เห็นครั้งแรกในปี 1938 ด้วยรุ่น R51 เครื่องยนต์ขนาด 494 ซี.ซี. และขนาด 594 ซี.ซี. ในรุ่น R66 โครงสร้างเฟรมท่อกลมเปลคู่แบบใหม่นี้ ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 5 ที่ทาง BMW เลือกจะถ่ายทอดสู่รถตลาดที่การแข่งขันกำลังแรงจัด ครั้นสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 รถ "วาล์วบนหัว" กลับมาเกิดใหม่หลังปล่อยให้ร้างจากผลพวงแห่งความพ่ายแพ้ต่อสงครามในฐานะ "ฝ่ายอักษะ"...1951 เครื่องยนต์พื้นฐานของ R66 ได้รับการปัดฝุ่นและพัฒนามันจนเกิดโมเดลใหม่อย่าง R67 ซึ่งรถตลาดไลน์ก็เริ่มทำยอดขายทันทีที่ออกตัว ในปีถัดมา R67/2 ถูกปรับใหม่อีกครั้ง เครื่องยนต์ขนาด 594 ซี.ซี. ที่ได้รับการปรับแต่งให้ทำงานได้ราบเรียบยิ่งขึ้น กำลังอัดใหม่ที่ 6.5:1 กับแรงม้าที่เพิ่มขึ้นอีก 2 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที (R67 กำลังอัด 5.6:1/ 26 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที) คือจุดไฮไลต์ และเมื่อเครื่องยนต์มีพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้น ชุดเกียร์ส่งกำลังแบบ 4 สปีดจึงต้องถูกปรับให้มันรับกัน ด้วยเพืองเกียร์ 1 ใหม่ ที่ให้อัตราเร่งรอบต้นที่ดีขึ้น แต่ยังคงชุดเฟืองเกียร์ 2-3-4 อย่างต้นฉบับเพราะเห็นว่าลงตัวกันอยู่แล้ว

R67/2 นั้น เกิดขึ้นในช่วงปี 1952-1954 และโปรดักต์ที่เกิดขึ้นในไลน์ทั้งสิ้น 4,234 คัน ถูกจำหน่ายไปทั่วทุกมุมโลก และถือเป็นโมเดลที่สร้างความสำเร็จให้ BMW อย่างที่ต้องการ ในล็อตนี้ความน่าสนใจยังคงถูกจัดแบ่งในรถรุ่นปี 1953 ที่ยังคงระบบเบรกหน้า/ หลัง ชนิดดรัมเบรกแบบเสี้ยวขนาด 200 มม. ที่วางบนกระทะล้อเหล็กขนาด 19 นิ้ว ทว่า ในปีถัดมากลับถูกแทนที่ด้วยดุมเบรกแบบเต็มในโมเดลปี 1954 ที่ทำออกมาอีกกว่าพันคัน...และยังคงเป็นไปตามคาดเดา "รถดุมเต็ม" ขนาด 6 แรง ที่ลองทำตลาด กลับได้รับการขานตอบเป็นอย่างดี จนโรงงานต้องเปิดไลน์การผลิตให้ R67/3 ทำตลาดต่ออีก 700 คัน โดยปรับในส่วนของโมเดลลากไซด์ ที่ใช้ล้อหลังขนาด 18 นิ้ว บนหน้ายางขนาด 4.00/ 18 (เดิม 3.50/19)

Steib แบรนด์ผู้ผลิตไซด์คาร์อันดับต้นๆ สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ผลิตขึ้นในเยอรมนี โดยเฉพาะ BMW นั้นคือพันธมิตรหลักที่ทำการส่งมอบให้เป็นออปชั่น S350 บ้านเราขนานนามว่า "ไซด์บอลลูน" พ่วงข้างขนาดกะทัดรัดที่เพิ่มอรรถประโยชน์ในการเดินทาง โครงสร้างที่ได้รับการออกแบบให้ติดตั้งได้อย่างง่ายดายในโมเดลรถ 2 สูบนอนทั้ง 5 และ 6 แรง เฟรมท่อกลมยึด 4 จุดที่วางบนระบบโช้คอัพแบบ 3 จุดนั้นนิ่มนวลใช้ได้...2 ตัวนอนประคองด้านหลังของไซด์ขึ้น/ ลง ตามแรงสั่นไหว ในขณะที่อีกตัวอาสารับแรงในแนวตั้งฉากจากแรงกดที่แกนล้อไซด์ และ S350 ไม่เน้นเรื่องบรรทุก จึงไร้กล่องเก็บสัมภาระด้านท้ายอย่างรุ่น S500 มีเฉพาะตะแกรงซี่ที่ติดตั้งล้ออะไหล่เท่านั้น และหากติดตั้งควบคู่กัน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนขนาดของเฟืองเพลาขับจากเดิมที่ 9/32 ฟัน เป็น 8/35 ฟัน จึงจะได้พละกำลัง...ตามสูตร!!!

Specification
รถ/ รุ่น 1953 BMW/ R67/2 Side Car Steib S350
ปีผลิต 1952-1954
จำนวนผลิต 4,234 คัน
เจ้าของ ตั้ม LE-DO
เครื่องยนต์ 2 สูบนอนยัน 4 จังหวะ 594 ซี.ซี. 28 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที
ระบบไฟ Noris 6 VL 45/60L
คาร์บูเรเตอร์ 2 X BING 1/24/15-1/24/16
ระบบเกียร์ 4 เกียร์
ระบบคลัตช์ แห้ง (แผ่นเดียว)
ระบบขับเคลื่อน เพลา 9/32 ฟัน (Side car 8/35)
ระบบโช้คอัพ (หน้า/หลัง) เทเลสโคปิค/ สไลด์
ระบบเบรก (หน้า/หลัง) ดรัมเบรก (ดุมเสี้ยว / บนล้อ 19 นิ้ว)
ความเร็วสูงสุด 110 ไมล์/ชม. (145 กม./ชม.)
อ้างอิง : THE ENCYCLOPEDIA OF THE MOTORCYCLE / Hugo Willson
: ON 2 WHEEL / Roland Brown
: BMW PROFILE 1923-1969/ BMW MANUFACTURING MUNICH
จากhttp://www.grandprixgroup.com/

ข้อมูลต่างๆมาจาก กลุ่มอนุรักษ์รถโบราณเมืองไชยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น