วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

กำเนิดลิงน้อย ฮอนด้า มังกี้ Honda Monkey


เรื่อง ราวของลิงน้อย เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1961 ( พ.ศ. 2504 ) ในโรงงานผลิตมอเตอร์ไซด์ฮอนด้า ประเทศญี่ปุ่นโดยที่พนักงานในโรงงานได้นำเครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่างๆ ของมอเตอร์ไซด์ที่ผลิตอยู่ในสายการผลิตมาลองใส่ในตัวถังขนาดเล็กที่ทำขึ้นมา ใหม่เพื่อ ทำให้เป็นมอเตอร์ไซด์ขนาดจิ๋วย่อส่วนไว้ขับขี่เล่นในยามว่าง หรือ นำพาติดรถไปขับขี่พักผ่อนนอกสถานที่ได้
โดยนำเอาเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 50 ซีซี,ไฟส่องทาง,ชุดคันเร่ง,มือเบรค จากฮอนด้าคันใหญ่มาใช้ ส่วนตัวโครงและชิ้นส่วนโลหะอื่นๆ ใช้เศษโลหะที่เหลือจากการผลิตมอเตอร์ไซด์คันใหญ่มาทำ แล้วตกแต่งให้สวยงามโดยให้สีตัวโครงเป็นสีแดง ถังน้ำมันสีขาว ตัดกันอย่างลงตัว แล้วใส่ล้อจิ๋วขนาดเล็กเพียง 5 นิ้ว แล้วตั้งชื่อมอเตอร์ไซด์คันน้อยนี้ว่ารุ่น " แซด ร้อย " Z100 ในเวลานั้นยังไม่ใครนึกถึงชื่ออื่น
Z100 ขับวิ่งเล่นครั้งแรกในสวนหย่อม ทามา เทค " Tama Tech " บริเวณรอบๆ โรงงานของฮอนด้านั้นเอง และก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ได้ลองขับขี่ว่า ขี่สนุก ผู้ที่เห็นรูปร่างมอเตอร์ไซด์จิ๋วคันนี้แล้วจินตนาการได้เหมือนกันว่า เหมือนกับลิงผอมตัวยาวๆ ที่แฝงไว้ด้วยความซุกซน จนมอเตอร์ไซด์จิ๋วคันนี้ถูกเรียกชื่อกันติดปากและรู้จักกันภายในอย่างไม่ เป็นทางการว่า " ฮอนด้า มังกี้ " " Honda Monkey " ที่ดูยังไง ยังไง ก็เหมือน "ของเล่น" มากกว่าเป็นมอเตอร์ไซด์
ในช่วงแรกที่ทำขึ้นมานี้ยังไม่มีการวางแผนการผลิตอย่างจริงจัง เหมือนเป็นเพียงโครงงานที่คิดขึ้นมาแล้วรอเช็คกระแสตอบรับอยู่ว่าจะไปรอด หรือไม่ แต่หลังจากที่ Z100 ผ่านสายตาพนักงานที่พบเห็นและลองขับขี่แล้วปรากฎว่า กระแสตอบรับดีมากมีแฟนๆ คลั่งไคล้ ทุกเพศทุกวัย ทุกคนที่พบเห็นล้วนแล้วแต่ปรารถนาจะเป็นเจ้าของ

ฮอนด้า นำเจ้า Z 100 มาปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อให้สามารถใช้ขับขี่บนถนนสาธารณะทั่วๆไปได้ ใช้เวลา 2 ปี พัฒนา จนกลายมาเป็นรุ่น " ซีแซด ร้อย " CZ 100 ในปี ค.ศ.1963 ที่พร้อมจะส่งออกไปขายในตลาดต่างประเทศซะด้วย ลิงตัวนี้ไม่ได้คิดอะไรมากได้ยกถังน้ำมันชุบโครเมี่ยมจากจากคันใหญ่ ลงมาใส่กับตัวโครงเล็กของมัน ดูผิวเผินกับคันแรกก็คงมีแค่ถังน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงไป จึงทำให้เจ้าลิงตัวนี้ดูเจ้าเนื้อขึ้นมาอีกหน่อยนึงเท่านั้นเอง

และ ในปี ค.ศ. 1967 ( พ.ศ.​2510 )ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดของเจ้าลิงน้อย เพราะทางโรงงานพร้อมที่จะเปิดไลน์ผลิตจำนวนมากๆได้แล้ว จึงจัดมังกี้อยู่ในส่วนหนึ่งของสายการผลิต จึงไม่ใช่เรื่องแปลกว่าทำไมคนรักลิงน้อยตัวนี้ที่อยู่ต่างแดนทั่วโลกจึง เพิ่งรู้จักมันในปีนี้ ทั้งๆที่ตัวจริงของมันออกมาวิ่งเพ่นพ่านตั้งแต่ 6 ปีที่แล้วในญี่ปุ่น
มังกี้รุ่นแรก ที่ทำตลาดอย่างจริงจังในญี่ปุ่นคือรุ่น Z50M ได้เปลี่ยนเครื่องยนต์จากระบบ โอเวอร์เฮดวาล์ว OHV มาใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ระบบ ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาพ ของมอเตอร์ไซด์รุ่นยอดนิยมที่สุดของฮอนด้าในตอนนั้นคือ ซุปเปอร์คัพ ซี 50 Super Cup C 50 ที่มี 3 เกียร์ คลัตช์อัตโนมัติ ที่เรียกกันว่ารถผู้หญิง นำมาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแค่ ระบบไอดี ไอเสีย เฟืองทดเกียร์ และที่เพิ่มขึ้นมาพิเศษคือ มีวาล์วเปิดปิดที่ถังน้ำมัน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันรั่วไหลออกมาเวลาจับนอนตะแคงเวลาขนขึ้นรถยนต์
Z50M ถูกออกแบบให้มีแฮนด์แยกกันอิสระเป็น 2 ชิ้นสามารถคลายล็อค และพับเก็บได้ เบาะมีขนาดกระชับเพื่อให้สามารถใส่วางในห้องโดยสารรถยนต์ได้สะดวก
สีสันบนตัวทำได้สวยสะดุดตาด้วยสีแดง ขาว และโครเมี่ยม " เบาะนั่งลายสก๊อต" ยิ่งทำให้ดูน่ารักเป็นอย่างยิ่ง
สัดส่วนของลิงตัวนี้ทำได้น่ารักมาก ความกว้างของมันเมื่อคลายน๊อตยึดมือจับจะเหลือเพียง 35 เซนติเมตร ความสูงจากพื้นหดได้เหลือ 61 เซนติเมตร ความยาวก็เหลือเพียง 65 เซนติเมตร และตั้งราคาขายไว้ที่ 63,000 เยน (ในปี 1967นะจ๊ะ)
ตามความเป็นจริงแล้ว เจ้าลิงน้อย Z50M ตัวนี้สามารถขับขี่วิ่งบนท้องถนนทั่วไปได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ อยู่แล้ว แต่ติดอยู่ตรงที่ว่า ดูยังไงมันก็ยังดูเป็นของเล่นมากกว่าเป็นมอเตอร์ไซด์วันยังค่ำ

ใน ปี ค.ศ. 1969 ฮอนด้า มังกี้ รุ่น Z50A ก็ถูกผลิตออกมา มันถูกปรับปรุงอย่างมาก ตะเกียบหน้าถูกเปลี่ยนเป็นโช๊คอัพแบบกระบอก พร้อมอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยอีกหลายรายการเช่น กระจกมองหลังและไฟเลี้ยว และเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น ล้อที่แต่เดิมใช้ขนาด 5 นิ้ว จึงถูกเพิิ่มขนาดขึ้นเป็น 8 นิ้ว

ใน ปี ค.ศ. 1970 ฮอนด้าเปิดตัวมังกี้ตัวใหมใช้ชื่อรุ่นว่า Z50Z เป็นรุ่นที่ได้พัฒนาปรับปรุงจากเดิมไปมาก เริ่มจากแฮนด์จับที่คลายพับง่ายกว่าเดิม และเมื่อพับแล้วใช้พื้นที่วางในรถน้อยกว่าเดิม สีสันที่ให้มากับลิงรุ่นนี้ก็ล้วนแต่สดใสมีชีวิตชีวา มีให้เลือก 3 อารมณ์คือ แดง candy – red , น้ำเงิน candy – blue และ เหลือง bright yellow และที่ถังน้ำมันออกแบบเป็น 2 สีตัดกัน( two – tone ) ลายใหม่
ในปี ค.ศ. 1974 เราก็ได้เห็น มังกี้รุ่น Z50J ที่ต่อมากลายเป็นพื้นฐานของมังกี้ที่เราเห็นในปัจจุบัน คือได้นำเอาระบบต่างๆ ของมอเตอร์ไซด์คันใหญ่มาใช้หลายอย่าง ตั้งแต่ระบบกันสะเทือน สวิงอาร์มที่ล้อหลัง เฟรมแบบ backbone ที่แข็งแรง และกระทะล้อที่เป็นแบบมาตรฐาน ซึ่งการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งหมดที่กล่าวมาเมื่อขับขี่จะรู้สึกได้ อย่างชัดเจนว่า ให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่ดีเหมือนมอเตอร์ไซด์คันใหญ่
ต่อมาในปี ค.ศ. 1978 มังกี้ก็ได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ได้ปรับเปลี่ยนรูปทรงของถังน้ำมันทรงเหลี่ยมอย่างเดิม ที่คนรักมังกี้บ้านเราเรียกมาตลอดว่า " ถังมะละกอ " ให้มีความโค้งมนมากขึ้น กลายเป็นถังรูปทรง " หยดน้ำตา " " tear drop " ที่ชาวลิงน้อยเรียกให้เป็นมงคลนามสั้นๆ ว่า " ถังหยดน้ำ " ที่กลายมาเป็นรูปแบบของถังน้ำมันมังกี้จนถึงปัจจุบัน และได้ขยายขนาดเบาะนั่งให้ใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะกับก้นฝรั่งตัวใหญ่ ทำให้ดูคล้ายกับรถมอเตอร์ไซด์ช๊อปเปอร์ของอเมริกัน เครื่องยนต์ก็มีกำลังมากขึ้น เพียบพร้อมด้วยระบบไฟสัญญาณต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
ในเดือน มกราคม เริ่มต้นของยุค มิเลเนี่ยม ปี 2000 ในวาระพิเศษเช่นนี้ ฮอนด้าก็ต้องมีอะไรดีๆ มาฝากคนรักมังกี้แน่นอน จึงได้ออกมังกี้รุ่นพิเศษผลิตในจำนวนจำนวนจำกัด 3,000 คันโดยใช้ชื่อรุ่นว่า มังกี้ " 2000 ANNIVERSARY " โดยใช้สีและลวดลายแบบเดียวกับมังกี้รุ่น Z50Z ที่ผลิตในปี ค.ศ. 197
ฮอนด้าได้ผลิต มังกี้ออกมาอย่างต่อเนื่องโดยยังคงจุดเด่นที่สำคัญของมันตลอดมาคือ เป็นมอเตอร์ไซด์แคระคันเล็กโดยที่เจ้าของมังกี้แต่ละคนสามารถตกแต่งมังกี้ของตนได้อย่างตามใจชอบไม่ว่า จะเป็นการตกแต่งเพื่อสวยงามภายนอก หรือแต่งซิ่งเพื่อประลองความเร็ว โดยมีรายการของตกแต่งมากกว่า 1,500 รายการเชียวหละครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น